ใบรับประกันสินค้า จำเป็นต้องใส่ข้อมูลอะไรบ้าง?
ไม่ว่าธุรกิจของคุณจะเป็นธุรกิจแบบไหน ถ้าตัวสินค้าของแบรนด์มีการรับประกันสินค้า สิ่งหนึ่งที่เป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งก็คือ ใบรับประกันสินค้า เพราะอย่างใบรับประกันสินค้า เครื่องใช้ไฟฟ้า จะเป็นใบรับรองและยืนยันได้ที่สุดว่า สินค้าที่ทางลูกค้าได้ทำการซื้อไปนั้น มีการรับประกันยาวนานกี่ปี เริ่มรับประกันตั้งแต่วันที่เท่าไหร่ และมีเงื่อนไขในการรับประกันอย่างไรบ้าง เพื่อเป็นข้อตกลงระหว่างบริษัทผู้ขาย และลูกค้าที่เป็นผู้ซื้อ ให้มีความเข้าใจตรงกันว่า ทางบริษัทมีนโยบายการรับประกันสินค้าตามเงื่อนไขต่าง ๆ อย่างไรบ้าง และลูกค้ามีสิทธิ์ที่จะได้รับบริการอะไรจากทางบริษัทบ้าง ซึ่งทั้งทางบริษัทและลูกค้าต่างต้องทำตามเงื่อนไขที่ได้จัดทำขึ้น เพื่อไม่ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถูกเอารัดเอาเปรียบ หรือ เสียผลประโยชน์ ดังนั้น ใบประกันสินค้า จึงมีไว้เพื่อตรวจสอบ ยืนยัน และเป็นหลักฐานสำคัญให้ลูกค้าได้ใช้สิทธิ์ในการรับประกันสินค้า อีกทั้งยังช่วยให้ทางบริษัทตรวจสอบได้ง่ายขึ้นว่า สินค้าที่ลูกค้าได้ทำการซื้อไป เป็นสินค้าที่ของทางบริษัทหรือไม่ เพื่อให้แน่ใจว่าสินค้าถูกจัดจำหน่ายโดยบริษัทจริง ๆ
โดยหากคุณอยากจะสั่งพิมพ์ ใบประกันสินค้า แต่กลับยังไม่ทราบว่าใบรับประกันสินค้าของคุณนั้น จะต้องใส่ข้อมูลอะไรลงไปบ้าง บอกเลยว่าต้องตามไปดูพร้อมกันว่า ข้อมูลแบบไหนบ้างที่คุณควรใส่ลงในใบรับประกันสินค้า??
ข้อมูลแบบไหนควรใส่ลงใน ใบรับประกันสินค้า ?
ชื่อและที่อยู่ของบริษัทใน ใบประกันสินค้า
ข้อมูลหลักที่จำเป็นต้องใส่ลงใน ใบประกันสินค้า คือ ข้อมูลชื่อและที่อยู่ของบริษัท ที่จัดจำหน่ายสินค้า โดยชื่อและที่อยู่ของบริษัทจะเป็นส่วนที่ลูกค้านำส่งทางไปรษณีย์ เพื่อส่งคืนใบรับประกันสินค้าให้กับทางบริษัท เพื่อให้ทางบริษัทได้ทำการตรวจสอบและลงบันทึกรายละเอียดการรับประกันสินค้าของลูกค้าแต่ละท่าน และเพื่อเป็นหลักฐานยืนยันที่ทางบริษัทเก็บไว้ นอกจากนี้ชื่อและโลโก้ของทางบริษัทควรที่จะปรากฏอยู่ในทุกหน้าของใบรับประกันสินค้า เพราะถ้ามีชิ้นส่วนใดขาดหายไปทางลูกค้าจะได้ทราบว่าสินค้าที่ซื้อเป็นของบริษัทใด อีกทั้งทางบริษัทก็ควรที่จะระบุเบอร์ติดต่อไว้ใน ใบประกันสินค้า เพื่อให้ลูกค้าที่เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับการรับประกันสินค้า สามารถติดต่อเข้ามาสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับทางบริษัทโดยตรง
เงื่อนไขการรับประกันใน ใบประกันสินค้า
ข้อมูลส่วนต่อมาที่จำเป็นที่ต้องระบุลงใน ใบประกันสินค้า ให้ลูกค้าได้ทราบรายละเอียดก็คือ เงื่อนไขการรับประกันสินค้า หรือ นโยบายของทางบริษัทที่ทางบริษัทได้ทำการจัดทำขึ้น เพื่อแจ้งให้กับทางลูกค้าได้ทราบ และเพื่อให้ลูกค้าเข้าใจตรงกันว่า ทางบริษัทมีนโยบายและเงื่อนไขการรับประกันอย่างไร นอกจากจะแจ้งให้ลูกค้าทราบตรงกันแล้ว ยังเป็นการช่วยลดปัญหาและข้อผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นตามมาภายหลัง ไม่ว่าปัญหาจะเกิดขึ้นในส่วนของทางบริษัทหรือลูกค้า หากมีเงื่อนไขที่ถูกพิมพ์เป็นลายลักษณ์อักษรไว้ จะทำให้ปัญหาที่จะเกิดขึ้นถูกคลี่คลายได้รวดเร็วและฉับไว
บัตรรับประกันส่วนของลูกค้า และ บริษัท
ข้อมูลส่วนสุดท้ายที่นับว่าเป็นข้อมูลส่วนหนึ่งที่มีความสำคัญมาก ๆ และข้อมูลที่ว่านั้นก็คือ ข้อมูลภายในบัตรรับประกันสินค้า โดยใน ใบประกันสินค้า จะมีบัตรรับประกันสินค้าทั้งส่วนที่ลูกค้าต้องทำการเก็บไว้ และส่วนที่ต้องนำส่งคืนทางบริษัท ซึ่งข้อมูลภายในบัตรรับประกันสินค้าทั้งสองส่วนจะมีข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับตัวสินค้าเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็น….
– ชื่อรุ่นของผลิตภัณฑ์ / ชนิดสินค้า ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์หมวดหมู่ใด ล้วนแต่จะต้องระบุชื่อสินค้าให้ชัดเจนใน ใบประกันสินค้า เพื่อง่ายต่อการตรวจสอบ
– หมายเลขเครื่อง หมายเลขเครื่องใน ใบประกันสินค้า ก็มีความจำเป็นไม่น้อยกว่า ชื่อรุ่นของผลิตภัณฑ์ เพราะแค่ชื่อรุ่นเพียงอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอ หากสินค้าชนิดนั้น ๆ มีหลากหลายขนาด หรือ หลากหลายรุ่นย่อย อาจจะทำให้เกิดปัญหาการจัดส่งสินค้าผิดขนาดให้กับลูกค้าได้ เพื่อให้พนักงานที่ทำการตรวจสอบสต๊อกสินค้าทำงานได้ง่าย และลดข้อผิดพลาดในการส่ง จึงควรระบุหมายเลขเครื่องให้ถูกต้อง
– วัน/เดือน/ปี และ ระยะเวลารับประกัน การระบุวัน/เดือน/ปี และ ระยะเวลาการรับประกันใน ใบประกันสินค้า เรียกได้ว่าเป็นใจความสำคัญหลักของใบรับประกันสินค้าเลยก็ว่าได้ เพราะวัน/เดือน/ปี ที่ระบุลงในใบรับประกันสินค้า จะเป็นตัววัดว่าสินค้าที่ลูกค้าทำการซื้อไปนั้น มีระยะเวลาในการรับประกันเหลืออยู่อีกกี่ปี และหากลูกค้าต้องการทำการจะเปลี่ยน หรือ ซ่อมแซมสินค้า จะต้องตรวจสอบดูวัน/เดือน/ปี และ ระยะเวลาการรับประกันสินค้า เพื่อมาคำนวณว่า มีระยะเวลาเหลือเท่าไหร่ในการเคลมสินค้า
– ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อ ทั้งนามผู้ซื้อ / ที่อยู่ / อาชีพ / เบอร์โทรศัพท์ ล้วนแล้วแต่ต้องระบุลงใน ใบประกันสินค้า เพื่อให้ทางบริษัททราบว่าลูกค้าที่ซื้อสินค้าไปนั้นเป็นบุคคลใด ทางบริษัทจะสามารถทำการติดต่อทางลูกค้าได้อย่างไร เพื่อที่จะพูดคุย แจ้งขั้นตอนและรายละเอียดเกี่ยวกับการรับประกันสินค้านั่นเอง
– ซื้อจากร้าน หรือ สาขาใด การระบุข้อมูลสถานที่ในการซื้อสินค้าอย่าง ร้านและสาขาที่ลูกค้าได้ทำการซื้อสินค้า จะทำให้ทางบริษัทได้ทำการตรวจสอบตัวสินค้าได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังสามารถส่งต่อการให้บริการไปยังสาขาต่าง ๆ ใกล้บ้านของลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าติดต่อทางร้านและสาขาใกล้บ้าน โดยที่ไม่ต้องเดินทางไกล
สรุป
หลังจากที่ได้ทราบไปแล้วว่า ใบประกันสินค้า เครื่องใช้ไฟฟ้า ควรที่จะใส่ข้อมูลอะไรลงไปบ้าง หากเจ้าของแบรนด์อย่างคุณมีสินค้าประเภทอื่นที่ไม่ใช่เครื่องใช้ไฟฟ้า บอกเลยว่าการเลือกใบรับประกันสินค้าให้เหมาะกับธุรกิจคุณก็ทำได้ไม่ยาก แต่คุณต้องเริ่มสังเกตตัวสินค้าของคุณก่อนว่า สินค้าของคุณเป็นสินค้าประเภทใด เหมาะกับใบรับประกันสินค้าแบบไหน จึงจะเริ่มออกแบบ ใส่ข้อมูล และค่อยทำการสั่งพิมพ์ ใบประกันสินค้า
หากต้องการพิมพ์ ใบประกันสินค้า ให้ได้มาตรฐาน สีคมชัด เสร็จตรงเวลา
ต้องเลือกใช้บริการจาก Europrinting
เพราะเราเชี่ยวชาญด้านงานพิมพ์ทุกชนิด ด้วยระบบการพิมพ์ออฟเซ็ท พร้อมกับประสบการณ์มากกว่า 25 ปี ที่จะคอยดูแล แนะนำ และมอบประสบการณ์ดี ๆ ให้กับทางลูกค้าผ่านงานที่ได้มาตรฐาน มีคุณภาพ และเสร็จตรงเวลา อีกทั้งเรายังใส่ใจทุกรายละเอียดในทุก ๆ ขั้นตอน โดยจะมีการตรวจสอบคุณภาพงานอย่างเข้มงวดก่อนที่จะส่งงานให้กับลูกค้า ซึ่งทางลูกค้าสามารถมั่นใจได้ว่างานที่ออกมาจะได้มาตรฐานและตรงความต้องการของลูกค้ามากที่สุด โดยไม่ว่า ใบประกันสินค้า จะมีการออกแบบและจัดวางทั้งลวดลาย สี รูปทรง หรือข้อความตัวอักษร มาในรูปแบบไหน ทางเรารับรองว่างานที่ได้ออกมานั้นจะตรงกับแบบที่ท่านต้องการแน่นอน
”เราไม่เคยหยุดที่จะพัฒนาคุณภาพของสินค้าและบริการ พร้อมที่จะดูแล แนะนำ และมอบประสบการณ์ดี ๆ ให้กับทุกคน”
สามารถติดต่อสอบถาม Euro printing ทางช่องทางอื่นได้ที่
Facebook : Euro printing
Instagram : Euro.printing
Line : @Europrinting
Call : 065-359-3959