โรงพิมพ์ออฟเซ็ท กับ 4 ขั้นตอนการสั่งพิมพ์ที่ห้ามพลาด?

โรงพิมพ์ออฟเซ็ท กับ 4 ขั้นตอนการสั่งพิมพ์ที่คุณพลาดไม่ได้?

โรงพิมพ์ออฟเซ็ท กับ 4 ขั้นตอนการสั่งพิมพ์ที่คุณพลาดไม่ได้?

ในยุคปัจจุบันนับได้ว่า โรงพิมพ์ออฟเซ็ท ได้รับความนิยม และ เป็นที่สนใจของเหล่าเจ้าของแบรนด์จำนวนไม่น้อย เพราะไม่ว่าแบรนด์ใดก็มักจะต้องอาศัยตัวช่วยอย่าง งานพิมพ์สื่อสิ่งพิมพ์ เข้ามาช่วยผลักดันให้สินค้าและแบรนด์เป็นที่น่าจับตามองของลูกค้ากันทั้งนั้น โดยโรงพิมพ์ออฟเซ็ท รับพิมพ์สื่อสิ่งพิมพ์ทุกชนิด เรียกได้ว่าครอบคลุมทุกงานพิมพ์ทุกประเภทที่ทุกแบรนด์ต้องการ

ไม่ว่าจะเป็นงานพิมพ์ สติ๊กเกอร์ ฉลากสินค้า กล่องบรรจุภัณฑ์ สื่อสิ่งพิมพ์พลาสติก อย่าง ป้ายแขวนประตู เนมเพลท ที่คล้อขวด พัดพลาสติก รวมทั้ง งานพิมพ์ส่งเสริมการขาย อย่าง ป้ายเด้ง wobbler ป้าย shelf talker และ ป้ายตั้ง ฯลฯ

แต่ไม่ว่าแบรนด์คุณจะเลือกพิมพ์งาน พิมพ์ออฟเซ็ท ประเภทไหน สิ่งหนึ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้ก่อนที่จะสั่งพิมพ์ ก็คือ ขั้นตอนการสั่งพิมพ์ เพราะหากคุณไม่คิดออกแบบงานพิมพ์ และ เตรียมข้อมูลรายละเอียดต่าง ๆ ให้พร้อม ก็จะยากต่อการติดต่อสื่อสารกับทางโรงพิมพ์ 

ทางที่ดีหากต้องการให้ทั้งสองฝ่าย ทั้งทางคุณและทางโรงพิมพ์เข้าใจตรงกัน คุณก็ควรจะรู้เสียก่อนว่า ขั้นตอนในการสั่งพิมพ์งาน กับ โรงพิมพ์ออฟเซ็ทมีขั้นตอนการสั่งพิมพ์อย่างไร ฉะนั้นรีบตามไปดูพร้อมกัน!!

 

4 ขั้นตอนการสั่งพิมพ์กับ โรงพิมพ์ออฟเซ็ท?

4 ขั้นตอนการสั่งพิมพ์กับ โรงพิมพ์ออฟเซ็ท?

แจ้งประเภทงานพิมพ์ที่ต้องการจะสั่งพิมพ์กับ โรงพิมพ์ออฟเซ็ท

ก่อนอื่นคุณต้องทราบดีแล้วว่างาน พิมพ์ออฟเซ็ท ประเภทใดที่คุณต้องการที่จะพิมพ์ จะเป็น สติ๊กเกอร์ ป้ายโฆษณาสินค้า ป้ายเด้ง shelf talker กล่องบรรจุภัณฑ์ ใบรับประกันสินค้า หรือ ป้ายสินค้า เมื่อทราบแล้วว่าแบรนด์คุณต้องการที่จะพิมพ์สื่อสิ่งพิมพ์แบบใดบ้าง คุณก็สามารถทำการแจ้งประเภทงาน พิมพ์ออฟเซ็ท ที่ต้องการจะสั่งพิมพ์กับทางโรงพิมพ์ได้เลย

 

ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับงาน พิมพ์ออฟเซ็ท

นอกจากคุณจะแจ้งประเภทงาน พิมพ์ออฟเซ็ท แล้ว คุณต้องระบุรายละเอียดเกี่ยวกับตัวงานให้กับทางโรงพิมพ์ด้วย มิเช่นนั้นทางโรงพิมพ์จะทราบได้อย่างไรว่า คุณต้องการงานพิมพ์ขนาดเท่าไหร่ จำนวนเท่าไหร่ และ ใช้วัสดุอะไร แต่ถ้าหากคุณยังไม่แน่ใจว่าจะตัดสินใจเลือกขนาด และ วัสดุอะไรในการพิมพ์ บอกก่อนเลยว่า ไม่ต้องกังวลไป เพราะทาง Europrinting จะคอยให้คำปรึกษา และ แนะนำลูกค้าเกี่ยวกับ ขนาด และ วัสดุที่ใช้ให้เหมาะสมกับ งานพิมพ์ออฟเซ็ท ที่คุณต้องการจะพิมพ์ เพื่อให้คุณได้งานพิมพ์ที่ตรงใจมากที่สุด

ขนาดของงานพิมพ์

หน่วยที่ใช้ระบุขนาดของงานพิมพ์จะใช้เป็นหน่วย ซม. เช่น หากคุณต้องการจะสั่ง พิมพ์กล่องบรรจุภัณฑ์ คุณก็ควรจะระบุขนาดให้ชัดเจนว่า ความกว้าง ความยาว และ ความสูง อยู่ที่เท่าไหร่ เพื่อง่ายต่อการเข้าใจขณะที่คุณทำการสื่อสารกับทางโรงพิมพ์ และเพื่อลดข้อผิดพลาดที่อาจะเกิดขึ้นได้

จำนวนในการพิมพ์งาน

นอกจากขนาดแล้ว จำนวนในการผลิตงาน ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะจำนวนขั้นต่ำในการพิมพ์งานของแต่ละโรงพิมพ์รับงาน พิมพ์ออฟเซ็ท ในจำนวนที่มากน้อยต่างกัน ส่วนใหญ่แล้วหากคุณเลือกพิมพ์สื่อสิ่งพิมพ์กับโรงพิมพ์ออฟเซ็ท ทางโรงพิมพ์มักจะนิยมพิมพ์งานจำนวนมาก ตั้งแต่หลัก 1,000-10,000 ใบพิมพ์ 

เพราะการ พิมพ์ออฟเซ็ท ต้องอาศัยเพลทในการพิมพ์ เมื่อทางโรงพิมพ์ได้ทำการขึ้นเพลทตามแบบงานต่าง ๆ แล้ว จึงเหมาะที่จะพิมพ์งานจำนวนมาก มากกว่าจะพิมพ์งานจำนวนน้อย ซึ่งถ้าคุณเลือกพิมพ์งานจำนวนมาก ต้นทุนในการพิมพ์ก็จะยิ่งถูกลง คุณก็จะสามารถลดต้นทุนในการพิมพ์ไปได้ไม่น้อยเลยทีเดียว 

วัสดุที่ใช้พิมพ์

และอีกหนึ่งรายละเอียดที่คุณไม่ควรมองข้าม นั่นก็คือ วัสดุที่ใช้พิมพ์ เพราะงาน พิมพ์ออฟเซ็ท แต่ละประเภทล้วนใช้วัสดุในการพิมพ์แตกต่างกัน วัสดุหลักที่ใช้ในการพิมพ์ออฟเซ็ทจะประกอบไปด้วย กระดาษ สติ๊กเกอร์ และ พลาสติก ซึ่งวัสดุแต่ละชนิดจะมีเอกลักษณ์เฉพาะ และ ใช้งานแตกต่างกัน เช่น วัสดุอย่าง สติ๊กเกอร์ จะสามารถแยกประเภทได้ทั้ง สติ๊กเกอร์กระดาษ สติ๊กเกอร์ PP สติ๊กเกอร์ PVC และ สติ๊กเกอร์ PET เป็นต้น

จะสังเกตเห็นได้ว่า ประเภทสติ๊กเกอร์ นั่นมีหลากหลาย แต่จะเลือกใช้อย่างไร คุณต้องลองมองย้อนกลับไปดูว่า แบรนด์ของคุณต้องการใช้ สติ๊กเกอร์ แบบไหน ติดบริเวณใด สัมผัสน้ำ หรือ สัมผัสความร้อนหรือไม่ เพื่อให้ประเภทสติ๊กเกอร์ที่คุณเลือก สามารถตอบโจทย์ความต้องการ และ เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด

 

เลือกเพิ่มบริการงานพิมพ์ในด้านใด 

ในแต่ละหมวดหมู่ของงานพิมพ์ ต่างมีตัวช่วยอย่างตัวบริการพิเศษต่าง ๆ เช่น เทคนิคพิเศษ การไดคัท และการบุรอย เข้ามาช่วยให้งานพิมพ์ประเภทนั้น ๆ ดูมีลูกเล่น และมีความน่าสนใจมากกว่าเก่า โดยบริการงานพิมพ์ที่คุณสามารถเลือกเพิ่มได้จะมีรายละเอียดดังนี้

เทคนิคพิเศษที่ใช้ในงานพิมพ์

เทคนิคพิเศษที่หลายท่านอาจจะยังไม่ทราบ เทคนิคพิเศษที่ว่าจะสามารถแบ่งออกเป็น เทคนิคการเคลือบ อย่าง เคลือบ uv เคลือบลามิเนต (การเคลือบเงา/ด้าน) และ การเคลือบ Sport uv (การเคลือบ uv เฉพาะจุด) นอกจากนี้ยังมีเทคนิคพิเศษอย่าง การปั๊มเข้ามาร่วมด้วย ทั้ง ปั๊มนูน ปั๊มฟอยล์ (ปั๊มเคทอง/เงิน) และ ปั๊มจม เป็นต้น ซึ่งทางคุณก็สามารถเลือกใช้เทคนิคพิเศษต่าง ๆ เหล่านี้ลงไปบนงาน พิมพ์ออฟเซ็ท เพื่อสร้างจุดเด่น และ ดึงดูดทุกสายตาให้มาจับจ้องที่สินค้าแบรนด์คุณได้

ไดคัทตามรูปทรง

บริการงานพิมพ์ที่นับได้ว่าใคร ๆ ก็รู้จัก คือ การไดคัท ตามแบบ หรือ ตามรูปทรงที่ลูกค้ากำหนด ซึ่งงาน พิมพ์ออฟเซ็ท ไม่ว่าจะเป็น สติ๊กเกอร์ กล่องบรรจุภัณฑ์ ป้ายโฆษณา หรือ สื่อส่งเสริมการขายต่าง ๆ ก็สามารถที่จะไดคัทรูปแบบงานชิ้นนั้น ๆ ออกมาได้ตามแบบที่คุณต้องการ

บุรอยปะ หรือ รอยพับ

งาน พิมพ์ออฟเซ็ท ที่มักจะ บุรอยปะ และ รอยพับ จะเป็นงานพิมพ์ประเภท กล่องบรรจุภัณฑ์ ใบรับประกันสินค้า คูปอง ป้าย tag และป้ายสินค้า เพื่อให้ง่ายต่อการฉีก และ ง่ายต่อการพับขึ้นรูปทรงตามแบบที่ได้กำหนดไว้ 

 

ส่งตัวอย่างการออกแบบให้กับ โรงพิมพ์ออฟเซ็ท

เมื่อคุณได้ระบุรายละเอียดที่เกี่ยวกับงาน พิมพ์ออฟเซ็ท เป็นที่เรียบร้อย ขั้นตอนสุดท้ายในการสั่งพิมพ์งานก็คือ การส่งตัวอย่างงานพิมพ์ หรือ ตัวอย่างการออกแบบชิ้นงาน ให้กับทางโรงพิมพ์ เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจตรงกันและเห็นภาพชัดเจนว่า งานพิมพ์ออฟเซ็ท จะมีรูปร่างหน้าตาประมาณไหน และมีรายละเอียดอย่าง สี รูปแบบตัวอักษร และ การจัดวางองค์ประกอบอย่างไรบ้าง

โดยตัวอย่างงาน พิมพ์ออฟเซ็ท จะทำให้ทางโรงพิมพ์เห็นภาพรวมของงานได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ และเมื่อใดที่ทางคุณต้องการจะแก้ไขตัวงานหรือปรับเปลี่ยนการออกแบบ ทางโรงพิมพ์จะได้แนะนำแนวทางการออกแบบงานพิมพ์ เทคนิคพิเศษ และ ข้อมูลเพิ่มเติมต่าง ๆ ได้ง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น

 

สรุป

หลังจากที่ทางโรง พิมพ์ออฟเซ็ท ได้ทำการแนะนำรายละเอียดที่เกี่ยวกับขั้นตอนการสั่งพิมพ์งานไปอย่างละเอียดครบถ้วนแล้ว เพื่อให้งานพิมพ์ตรงไปตามแบบที่คุณต้องการ ทางที่ดีแนะนำให้คุณทำตามขั้นตอนที่กล่าวไปข้างต้น จะทำให้คุณสื่อสารกับทางโรงพิมพ์ได้ง่าย ฉับไว และ สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เรียกว่าทั้งคุณและทางโรงพิมพ์จะเข้าใจตรงกันทั้งสองฝ่าย งานพิมพ์ที่ได้ก็จะเป็นไปตามที่คุณลูกค้าคาดหวังเอาไว้

 

หากต้องการ พิมพ์ออฟเซ็ท ที่ได้มาตรฐาน สีคมชัด เสร็จตรงเวลา

ต้องเลือกใช้บริการจาก Europrinting

เพราะเราเชี่ยวชาญด้านงานพิมพ์ทุกชนิด ด้วยระบบการพิมพ์ออฟเซ็ท พร้อมกับประสบการณ์มากกว่า 25 ปี ที่จะคอยดูแล แนะนำ และมอบประสบการณ์ดี ๆ ให้กับทางลูกค้าผ่านงานที่ได้มาตรฐาน มีคุณภาพ และเสร็จตรงเวลา  อีกทั้งเรายังใส่ใจทุกรายละเอียดในทุก ๆ ขั้นตอน โดยจะมีการตรวจสอบคุณภาพงานอย่างเข้มงวดก่อนที่จะส่งงานให้กับลูกค้า ซึ่งทางลูกค้าสามารถมั่นใจได้ว่างานที่ออกมาจะได้มาตรฐานและตรงความต้องการของลูกค้ามากที่สุด โดยไม่ว่า งาน พิมพ์ออฟเซ็ท จะมีการออกแบบและจัดวางทั้งลวดลาย สี รูปทรง หรือข้อความตัวอักษร มาในรูปแบบไหน ทางเรารับรองว่างานที่ได้ออกมานั้นจะตรงกับแบบที่ท่านต้องการแน่นอน

”เราไม่เคยหยุดที่จะพัฒนาคุณภาพของสินค้าและบริการ พร้อมที่จะดูแล แนะนำ และมอบประสบการณ์ดี ๆ ให้กับทุกคน”

 

สามารถติดต่อสอบถาม Euro printing ทางช่องทางอื่นได้ที่

Facebook : Euro printing

Instagram : Euro.printing

Line : @Europrinting

Call : 065-359-3959

ติดต่อเรา