พิมพ์ออฟเซ็ท พิมพ์อย่างไรให้คุ้มค่า ได้ราคาถูก? 

งานพิมพ์สื่อสิ่งพิมพ์ ไม่ว่าจะเป็นงานพิมพ์ กระดาษ สติ๊กเกอร์ หรือ พลาสติก ต่างต้องตัดสินใจเลือกว่าจะพิมพ์ด้วยระบบ พิมพ์ออฟเซ็ท หรือ พิมพ์ดิจิตอล แต่ถ้ายังไม่ทราบว่าการพิมพ์ออฟเซ็ท และ พิมพ์ดิจิตอล มีความแตกต่างกันอย่างไร ก็ควรที่จะศึกษาหาข้อมูลให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อนที่จะตัดสินใจสั่งพิมพ์งาน เนื่องจากทั้ง งานพิมพ์ออฟเซ็ท และ ดิจิตอลต่างมีทั้งข้อดีที่แตกต่างกัน ทั้งคุณภาพ ความละเอียด จำนวน รวมถึงงบประมาณในการผลิต ดังนั้นการเลือกระบบในการพิมพ์จึงมีความสำคัญไม่น้อย โดยเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอันขาด

หากคุณอยากจะเริ่มต้นพิมพ์งานพิมพ์สื่อสิ่งพิมพ์สักชิ้น แล้วได้ตัดสินใจเลือกแล้วว่าต้องการที่จะพิมพ์งานด้วยระบบออฟเซ็ท เพราะต้องการจะสั่งพิมพ์ งานพิมพ์ออฟเซ็ท จำนวนมากในระยะเวลาจำกัด พร้อมทั้งได้งานที่มีคุณภาพในต้นทุนที่ต่ำ ต้องตามมาดูพร้อมกันว่า จะมีขั้นตอนใดบ้าง ที่จะสามารถช่วยคุณประหยัดต้นทุนในการผลิต พร้อมกับได้ งานพิมพ์ออฟเซ็ท ที่ทั้งราคาถูกและได้มาตรฐาน ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกัน!!!

 

พิมพ์ออฟเซ็ท มีขั้นตอนการสั่งพิมพ์อย่างไร?

 

เลือกรูปแบบของ งานพิมพ์ออฟเซ็ท

มาเริ่มกันที่ขั้นตอนแรกอย่าง การเลือกรูปแบบของงานพิมพ์ ก่อนอื่นเจ้าของแบรนด์อย่างคุณควรที่จะต้องทราบก่อนว่า แบรนด์ของคุณต้องการงานพิมพ์ออฟเซ็ทแบบไหน งานพิมพ์ประเภทไหนที่จะเหมาะกับแบรนด์ของคุณ โดย งานพิมพ์ออฟเซ็ท จะประกอบไปด้วย งานพิมพ์สติ๊กเกอร์ งานพิมพ์พลาสติก งานพิมพ์กล่องบรรจุภัณฑ์ และ งานพิมพ์สื่อสิ่งพิมพ์เพื่อส่งเสริมการขาย ทั้งการพิมพ์ป้ายโฆษณาอย่าง โบรชัวร์ ป้ายเด้ง ป้ายติกบนชั้นวาง (Shelftalker) สายคาดกล่องอาหาร ปลอกแก้วกาแฟ และ ป้ายสินค้า เป็นต้น

เลือกวัสดุในการพิมพ์

หลังจากที่ทราบแล้วว่าต้องการที่จะ งานพิมพ์ออฟเซ็ท ประเภทไหน ก็มาต่อกันที่ขั้นตอนการเลือกวัสดุในการพิมพ์ โดยวัสดุหลัก ๆ ที่ใช้ในการพิมพ์ออฟเซ็ท มีทั้งกระดาษ สติ๊กเกอร์ และพลาสติก ซึ่งวัสดุประเภทต่าง ๆ ต่างสามารถแยกย่อยได้หลากหลายชนิด นอกจากการเลือกวัสดุแล้ว ก็ไม่ควรพลาดที่จะเลือกความหนาของ งานพิมพ์ออฟเซ็ท ด้วย เพราะความหนาของวัสดุแต่ละชนิดจะส่งผลต่อคุณภาพของงานพิมพ์ และส่งผลต่อต้นทุนในการผลิตด้วยเช่นกัน ดังนั้นการเลือกใช้วัสดุและการเลือกความหนาจะขึ้นอยู่กับว่างานพิมพ์ที่จะพิมพ์นั้นมีลักษณะอย่างไร นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงความเหมาะสมของงานพิมพ์ประเภทนั้น ๆ ด้วย

เลือกขนาดของ งานพิมพ์ออฟเซ็ท

เมื่อรู้ทั้งวัสดุและความหนาของ งานพิมพ์ออฟเซ็ท ขั้นตอนต่อมาคือ การเลือกขนาดของงานพิมพ์ โดยในขั้นตอนนี้กก็มีความสำคัญไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะขนาดของงานพิมพ์แต่ละชนิด จะต้องคำนึงถึงสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่จะนำงานพิมพ์ไปใช้ต่อยอดด้วย เหตุผลที่ต้องคำนึงถึงตัวสินค้า เนื่องจากขนาดของสินค้าจะมีผลต่อขนาดของงานพิมพ์นั่นเอง 

เช่น หากคุณต้องการพิมพ์งานกล่องเครื่องสำอาง สิ่งแรกที่คุณต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรกก็คือ ขนาดของเครื่องสำอางของคุณว่า มีขนาดอยู่ที่เท่าไหร่ เพื่อที่จะนำขนาดของเครื่องสำอางที่ได้นั้นมาคำนวณว่า กล่องเครื่องสำอางควรที่จะมีขนาดเท่าไหร่ นอกจากที่จะทำให้ทราบขนาดของกล่องบรรจุภัณฑ์แล้ว ยังเป็นการลดความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นตามมาได้อีกด้วย

เลือกสีที่ใช้ในงานพิมพ์

มาถึงขั้นตอนในการเลือกสีในการพิมพ์กันบ้าง การเลือกสีใน งานพิมพ์ออฟเซ็ท สามารถเลือกสีได้ตั้งแต่ 1 ถึง 4 สี หรือมากกว่านั้น โดยคุณจะเลือกพิมพ์ออฟเซ็ท 1 สี หรือ พิมพ์ออฟเซ็ท 4 สี ก็ขึ้นอยู่กับวัสดุที่เลือกใช้ และ ขึ้นอยู่กับสีที่คุณมองว่าสอดคล้องกับ Mood and Tone หรือสีประจำแบรนด์ของคุณหรือไม่ ซึ่งการพิมพ์ออฟเซ็ท 1 สี จะสามารถเลือกพิมพ์สีใดก็ได้ 1 สี โดยไม่จำเป็นต้องเป็นสีขาว หรือ สีดำเหมือนกับการพิมพ์ดิจิตอล

เลือกจำนวนของ งานพิมพ์ออฟเซ็ท

ในขั้นตอนสุดท้ายจะเป็นการเลือกจำนวนของ งานพิมพ์ออฟเซ็ท โดยคุณสามารถเลือกจำนวนในการสั่งพิมพ์ได้ตั้งแต่หลัก 10,000 ขึ้นไป เพราะโดยปกติแล้วงานพิมพ์ออฟเซ็ทจะเป็นงานที่พิมพ์ครั้งละจำนวนมาก ทำให้ งานพิมพ์ออฟเซ็ท จะเน้นปริมาณเป็นหลัก ส่งผลให้เมื่อคุณยิ่งสั่งผลิตมากเท่าไหร่ ต้นทุนในการผลิตก็จะยิ่งถูกลงไปเท่านั้น ซึ่งมีส่วนช่วยให้คุณสามารถประหยัดต้นทุนไปได้ไม่มากก็น้อย

 

สรุป

จากขั้นตอนที่ได้กล่าวไปข้างต้น การเลือกพิมพ์งานออฟเซ็ท มีขั้นตอนการสั่งพิมพ์หลักอยู่ 5 ขั้นตอน โดยทั้ง 5 ขั้นตอนนี้จะสามารถช่วยเป็นแนวทางให้เจ้าของแบรนด์แต่ละท่านเข้าใจกระบวนการในการสั่ง งานพิมพ์ออฟเซ็ท มากขึ้น อีกทั้งการที่เจ้าของแบรนด์อย่างคุณได้รู้ขั้นตอนการสั่งพิมพ์ทั้งหมด จะช่วยให้คุณเลือกวัสดุ เลือกขนาด ความหนา สี และจำนวนของงานพิมพ์ออฟเซ็ทได้เหมาะสมกับแบรนด์มากขึ้นด้วย

 

หากต้องการ พิมพ์ออฟเซ็ท ให้ได้สีคมชัด เสร็จตรงเวลา

ต้องเลือกใช้บริการจาก Europrinting

เพราะเราเชี่ยวชาญด้านงานพิมพ์ทุกชนิด ด้วยระบบการพิมพ์ออฟเซ็ท พร้อมกับประสบการณ์มากกว่า 25 ปี ที่จะคอยดูแล แนะนำ และมอบประสบการณ์ดี ๆ ให้กับทางลูกค้าผ่านงานที่ได้มาตรฐาน มีคุณภาพ และเสร็จตรงเวลา  อีกทั้งเรายังใส่ใจทุกรายละเอียดในทุก ๆ ขั้นตอน โดยจะมีการตรวจสอบคุณภาพงานอย่างเข้มงวดก่อนที่จะส่งงานให้กับลูกค้า ซึ่งทางลูกค้าสามารถมั่นใจได้ว่างานที่ออกมาจะได้มาตรฐานและตรงความต้องการของลูกค้ามากที่สุด โดยไม่ว่างาน พิมพ์ออฟเซ็ท 4 สี จะมีการออกแบบและจัดวางทั้งลวดลาย สี รูปทรง หรือข้อความตัวอักษร มาในรูปแบบไหน ทางเรารับรองว่างานที่ได้ออกมานั้นจะตรงกับแบบที่ท่านต้องการแน่นอน

”เราไม่เคยหยุดที่จะพัฒนาคุณภาพของสินค้าและบริการ พร้อมที่จะดูแล แนะนำ และมอบประสบการณ์ดี ๆ ให้กับทุกคน”

 

สามารถติดต่อสอบถาม Euro printing ทางช่องทางอื่นได้ที่
Facebook : Euro printing

Instagram : Euro.printing

Line : @Europrinting

Call : 065-359-3959