กล่องบรรจุภัณฑ์ เรียกได้ว่ามีความสำคัญเป็นอันดับตัน ๆ ที่จะดึงดูดความสนใจของลูกค้าให้มาซื้อผลิตภัณฑ์ได้ง่ายขึ้น เนื่องจากรูปลักษณ์และการออกแบบกล่องจะเป็นตัวช่วยให้สินค้าดูน่าสนใจ โดดเด่น และ สะดุดตา โดยไม่ว่ากล่องจะอยู่ในรูปแบบของ กล่องเครื่องสำอาง กล่องครีม กล่องอาหารเสริม กล่องสบู่ กล่องแมส กล่องขนม หรือ กล่องอาหาร ตัวกล่องจะช่วยเพิ่มมูลค่าของสิ่งของที่อยู่ข้างในให้มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น ซึ่งหากลูกค้าเห็น กล่องแพคเกจจิ้ง ที่มีการออกแบบที่ดี สวย มีสไตล์ จะทำให้พวกเขาอยากที่จะซื้อสินค้านั้นมากขึ้น ทั้งนี้กระดาษที่จะใช้พิมพ์ กล่องบรรจุภัณฑ์ นั้นไม่ได้มีแค่ประเภทเดียว โดยกระดาษแต่ละประเภทมีลักษณะการใช้งานและมีความสวยงามที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตามคุณควรจะเลือกใช้กระดาษที่เข้ากับตัวผลิตภัณฑ์หรือลักษณะของตัวกล่อง เพื่อให้กล่องที่พิมพ์ออกมานั้นเข้ากับผลิตภัณฑ์และตอบโจทย์สินค้าได้ดี
ตามมาดูไปพร้อมกันว่า กระดาษแบบไหนใช้พิมพ์กล่องบรรจุภัณฑ์ได้บ้าง?
กระดาษแป้งหลังเทา
กระดาษแป้งหลังเทา เป็นกระดาษที่เหล่าเจ้าของแบรนด์นิยมนำมาผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์มากที่สุด เพราะมีต้นทุนต่ำที่สุด อีกทั้งยังมีความคงทนสูง ทำให้สามารถประหยัดต้นทุนในการผลิตไปได้ไม่น้อย ซึ่งลักษณะของเนื้อกระดาษ ด้านหนึ่งจะเคลือบด้วยแป้งสีขาว ๆ มัน ๆ ส่วนอีกด้านของกระดาษจะมีลักษณะเป็นสีเทา ๆ ทั้งนี้ความหนาของกระดาษแป้งหลังเทาจะอยู่ในช่วง 310-350 แกรม โดยความหนาที่เลือกใช้จะขึ้นอยู่กับความหนักของผลิตภัณฑ์หรือสิ่งของที่อยู่ภายในกล่อง ถ้าผลิตภัณฑ์ค่อนข้างมีน้ำหนักก็ควรที่จะเลือกกระดาษที่มีจำนวนแกรมที่สูงขึ้น ดังนั้นกระดาษแป้งหลังเทาที่มีราคาย่อมเยา พร้อมทั้งมีความคงทนสูงจึงเหมาะมาก ๆ ที่จะนำมาทำกล่องบรรจุชนิดต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้กระดาษประเภทนี้ใช้กันอย่างแพร่หลายมาก ๆ สามารถเห็นได้ตามท้องตลาดทั่วไป
กระดาษแป้งหลังขาว
กระดาษแป้งหลังขาว เป็นกระดาษที่ได้รับความนิยมนำมาผลิตไม่แพ้กระดาษแป้งหลังเทา เพราะมีลักษณะที่คล้ายคลึงกันมาก ๆ เรียกได้ว่าเป็นกระดาษตัวตายตัวแทน ที่สามารถใช้แทนกันได้ แต่กระดาษแป้งหลังขาวจะความสวยและโดดเด่นกว่าตรงที่ ลักษณะของกระดาษด้านในจะเป็นสีขาว ทำให้ดูสะอาดตาและดูดีดูสวยกว่ากระดาษแป้งหลังเทา อีกทั้งยังมีราคาประหยัดและหาซื้อได้ง่ายด้วย
กระดาษอาร์ตการ์ด
กระดาษอาร์ตการ์ด เป็นกระดาษที่ยกระดับขึ้นมาอีกขั้น โดยจะมีความพิเศษมากกว่ากระดาษแป้งหลังเทาและกระดาษแป้งหลังขาว ซึ่งความพิเศษที่ว่านั้นก็คือ กระดาษอาร์ตการ์ดเมื่อพิมพ์ออกมาแล้วจะให้สีที่สดและคมชัดมากกว่ากระดาษ 2 ประเภทแรก แต่ก็ต้องยอมรับว่าราคาของกระดาษก็จะมีราคาที่สูงกว่าด้วยเช่นกัน กระดาษประเภทนี้จึงนิยมนำมาผลิตเป็น กล่องเครื่องสำอาง กล่องครีม กล่องสบู่ และ กล่องขนม สักส่วนใหญ่ เนื่องจากเป็น กล่องแพคเกจจิ้ง ที่เน้นความสวยงามและเน้นลวดลายเป็นหลัก โดยความหนาที่นิยมใช้จะอยู่ในช่วง 250-350 แกรม ทั้งนี้กระดาษอาร์ตการ์ดก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ เรียกได้ว่าสามารถตอบโจทย์ กล่องบรรจุภัณฑ์ ที่หลายคนกำลังมองหาได้แน่นอน
กระดาษคราฟท์น้ำตาล
กระดาษคราฟท์น้ำตาล หรือหลายคนอาจจะคุ้นหูกับคำว่า กระดาษรีไซน์เคิล โดยลักษณะของกระดาษจะมีลักษณะเป็นสีน้ำตาลทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ซึ่งตัวกระดาษสามารถแบ่งออกได้หลายประเภท ทั้ง KA KI KP และอื่น ๆ แต่ประเภทกระดาษที่ใช้ผลิต กล่องแพคเกจจิ้ง จะเป็นประเภท KP และเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับกระดาษประเภทอื่น ๆ กระดาษประเภทนี้จะดูหนากว่า เนื่องจากเนื้อกระดาษจะมีความฟู โดยส่วนใหญ่จะนิยมใช้กับงานกล่องที่พิมพ์สีเดียว เพราะตัวกระดาษมีความโดดเด่นและเอกลักษณะเฉพาะตัวอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องพิมพ์หลายสี ทำให้กล่องดูแปลกใหม่ เท่ ดูดีมีสไตล์ และเหมาะมาก ๆ สำหรับคนที่อยากได้กล่องสไตล์มินิมอล กระดาษคราฟท์น้ำตาลก็เป็นตัวเลือกหนึ่งที่คุณไม่ควรห้ามพลาด
กล่องบรรจุภัณฑ์ ใช้กระดาษอะไรพิมพ์ดี?
- กระดาษแป้งหลังเทา เหมาะที่จะพิมพ์กล่องที่ไม่ต้องการใช้ต้นทุนในการผลิตสูง แต่ต้องการความคงทนสูง หากจะเน้นความสวยงามภายนอกกล่องเพียงอย่างเดียว และไม่ต้องการเน้นความสวยงามด้านในกล่องมากนัก กระดาษแป้งหลังเทา ถือว่าตอบโจทย์และเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าและประหยัดงบประมาณในการผลิตได้ดีเลยทีเดียว
- กระดาษแป้งหลังขาว เหมาะที่จะพิมพ์กล่องที่ไม่ต้องใช้ต้นทุนในการผลิตมาก เช่นเดียวกับกระดาษแป้งหลังเทา แต่ความแตกต่างระหว่างกระดาษแป้งหลังเทาและกระดาษแป้งหลังขาว แตกต่างกันตรงที่ ถ้าคุณต้องการกล่องที่มาพร้อมกับความสวย โดดเด่น ทั้งภายในและภายนอก ตัวกระดาษแป้งหลังขาวจะตอบโจทย์ได้ดีกว่า
- กระดาษอาร์ตการ์ด เหมาะที่จะพิมพ์กล่องที่ต้องการเน้นสีที่สด คมชัด ไม่ว่าจะเน้นเป็นตัวอักษรหรือลวดลายบนกล่อง กระดาษอาร์ตการ์ดจะทำให้กล่องบรรจุภัณฑ์ดูสวยสดงดงามกว่ากระดาษประเภทอื่น ๆ แน่นอน แต่ความสวยที่ได้ก็ต้องแลกกับราคาที่สูงขึ้นด้วยเช่นกัน
- กระดาษคราฟท์น้ำตาล เหมาะที่จะพิมพ์กล่องที่ต้องการความหนามากกว่าปกติ และ ต้องการโชว์ความโดดเด่นของตัวกระดาษผ่านการพิมพ์สีเดียว ทั้งนี้ถ้าอยากได้กล่องที่ทั้งดูดี มีสไตล์ เรียบหรู ดูเท่ เลือกใช้กระดาษคราฟท์ถือว่าไม่ผิดหวัง
สรุป
ความจริงแล้วการพิมพ์ กล่องบรรจุภัณฑ์ ไม่ได้มีกระดาษเฉพาะที่ตายตัว จึงไม่จำเป็นต้องเจาะจงว่า กล่องที่จะพิมพ์จะต้องใช้กระดาษประเภท…….นี้เท่านั้น แต่คุณสามารถเลือกปรับเปลี่ยนกระดาษให้ตอบโจทย์กับตัวผลิตภัณฑ์และตัวแบรนด์ของคุณได้ ไม่ว่าจะเป็น กล่องเครื่องสำอาง กล่องครีม กล่องสบู่ กล่องอาหารเสริม กล่องอาหาร กล่องขนม กล่องของเล่น กล่องเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือ กล่องใส่ของทั่วไป ต่างใช้กระดาษได้หลากหลายแบบ ขึ้นอยู่กับการออกแบบ งบประมาณที่ใช้ และความต้องการของคุณว่า คุณอยากให้กล่องบรรจุภัณฑ์มีรูปร่างลักษณะอย่างไร มีหน้าตาแบบไหน แต่ก็ห้ามพลาดที่จะคำนึงถึงความเหมาะสมของผลิตภัณฑ์ด้วย ว่ากระดาษที่เลือกใช้ตอบโจทย์หรือไม่
หากต้องการพิมพ์ กล่องบรรจุภัณฑ์ ให้ได้มาตรฐาน สีคมชัด เสร็จตรงเวลา
ต้องเลือกใช้บริการจาก Europrinting
เพราะเราเชี่ยวชาญด้านงานพิมพ์ทุกชนิด ด้วยระบบการพิมพ์ออฟเซ็ท พร้อมกับประสบการณ์มากกว่า 25 ปี ที่จะคอยดูแล แนะนำ และมอบประสบการณ์ดี ๆ ให้กับทางลูกค้าผ่านงานที่ได้มาตรฐาน มีคุณภาพ และเสร็จตรงเวลา อีกทั้งเรายังใส่ใจทุกรายละเอียดในทุก ๆ ขั้นตอน โดยจะมีการตรวจสอบคุณภาพงานอย่างเข้มงวดก่อนที่จะส่งงานให้กับลูกค้า ซึ่งทางลูกค้าสามารถมั่นใจได้ว่างานที่ออกมาจะได้มาตรฐานและตรงความต้องการของลูกค้ามากที่สุด
”เราไม่เคยหยุดที่จะพัฒนาคุณภาพของสินค้าและบริการ พร้อมที่จะดูแล แนะนำ และมอบประสบการณ์ดี ๆ ให้กับทุกคน”
สามารถติดต่อสอบถาม Euro printing ทางช่องทางอื่นได้ที่
Facebook : Euro printing
Instagram : Euro.printing
Line : @Europrinting
Call : 065-359-3959